



นักชอปปิงทั้งหลายคงได้ข่าวกันมาบ้างแล้วว่า… ญี่ปุ่นกำลังจะมี การเปลี่ยนแปลงระบบการขอคืนภาษี (Tax Refund) ในปี 2026 ที่กำลังจะถึงนี้ ![]()
โดยระบบ เดิม ที่เราคุ้นเคยกันดีในปัจจุบันก็คือ การมองหาป้าย “Tax Free” ในร้านค้าซื้อสินค้าให้ครบ 5,000 เยน แล้วแค่ยื่น พาสปอร์ต ก็จะได้ชำระสินค้าในราคาที่ ปลอดภาษีทันที ง่ายและสะดวกสุด ๆ
แต่หลังจากนี้…
ญี่ปุ่นมีกำหนดการเปลี่ยนระบบจาก “Tax Free” เป็น “Tax Refund”
ในช่วง ปลายปี 2026 โดยคาดว่าจะเริ่มใช้ใน ครึ่งหลังของปี 2026
ข้อควรระวังและคำแนะนำ
เก็บใบเสร็จและเอกสารให้ครบถ้วน
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้รับใบเสร็จที่ถูกต้องและครบถ้วนจากร้านค้า
ตรวจสอบสถานที่ขอคืนภาษี
บางร้านอาจมีเคาน์เตอร์คืนภาษีภายในร้าน แต่บางแห่งอาจต้องไปที่สนามบินหรือจุดให้บริการเฉพาะ
เผื่อเวลาในการขอคืนภาษี
ควรเผื่อเวลาอย่างน้อย 1–2 ชั่วโมง ก่อนขึ้นเครื่องบิน เพื่อดำเนินการขอคืนภาษี
ตรวจสอบวิธีรับเงินคืนภาษี
ระบบใหม่อาจให้เลือกรับเงินคืนภาษีผ่าน
• เงินสดที่สนามบิน
• โอนเข้าบัตรเครดิตที่ใช้ซื้อสินค้า
• หรือโอนเข้าบัญชีธนาคาร / e-Wallet
จากที่หลายคนสงสัยว่าสามารถแกะถุงสินค้าก่อนกลับไทยได้มั้ย ตามกฎเดิม (ก่อนปี 2026):
ห้ามเปิดหรือใช้สินค้าที่ซื้อแบบปลอดภาษี (โดยเฉพาะสินค้าบริโภค เช่น ขนม เครื่องสำอาง ฯลฯ) ก่อนเดินทางออกจากประเทศญี่ปุ่น
สินค้าทั่วไป เช่น เสื้อผ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ สามารถแกะดูได้บ้าง แต่ไม่ควรใช้งาน เพราะถือว่าผิดวัตถุประสงค์การซื้อเพื่อ “นำออกนอกประเทศ” ตามเงื่อนไข Tax Free
ถ้าเจ้าหน้าที่สุ่มตรวจที่ด่านศุลกากร แล้วพบว่าสินค้า ถูกใช้แล้ว หรือเปิดกินไปแล้ว → มีโอกาสต้อง จ่ายภาษีย้อนหลัง ถือว่า ผิดเงื่อนไข
แต่ระบบใหม่ในปี 2026 เนื่องจากระบบจะเปลี่ยนเป็น ต้องจ่ายรวมภาษีก่อน แล้วไปขอคืนทีหลัง
→ แกะใช้ได้ เพราะถือว่าเป็นเจ้าของสมบูรณ์แล้วตั้งแต่ซื้อ
แต่ยังคงต้องเก็บใบเสร็จและสินค้าติดตัวไปที่สนามบิน เพื่อยืนยันการขอคืนภาษี
https://livejapan.com/ja/article-a0000238/
ที่เฟซบุ๊กเพจ “Fan Japan Fun” ยังมีโพสต์เกี่ยวกับญี่ปุ่นอีกเพียบ บางครั้งก็มีแบบสอบถามสนุกๆ ให้ได้ร่วมลุ้นของรางวัลสุดพิเศษ
ใครสนใจอย่าลืมกดติดตามกันนะ
ติดตามได้ที่นี่
















